วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เรื่อง Past Simple Tense

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง Past Simple Tenes
รหัสวิชา อ.151101 รายวิชา ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียยนรู้
มาตรฐานอ.1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟัง และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆและแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล
มาตรฐานอ.1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานอ.1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและเขียน
มาตรฐาน อ2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างภาษากับวัฒธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาละเทศะ
มาตรฐาน อ3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนยรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการพัฒนยาแสวสงหาความรู้
มาตรฐานอ 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
สาระสำคัญ

หลักการใช้ Past Simple T

กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1

กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน
ครูและนักเรียนร่วมกันทำท่าบริสมอง ด้วยเทคนิกดารา TBM เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเรียน

กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูสนทนากับนักเรียนว่ารู้จัก Past Simple Tense หรือไม่และมีหลักการใช้อย่างไร โดยให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น
2. ครูบอกนักเรียนว่าชั่วโมงนี้เราจะเรียนเรื่อง Past Simple Tense ครูเปิด CD โดยใช้สื่อ CAI ร่วมกับการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนมีความสนใจ และกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น
Past Simple Tense
1. ประโยค Past Simple Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + Verb 2
( ประธาน + กริยาช่องที่ 2 )
ตัวอย่าง : 1.He walked to school yesterday. ( เขาเดินมาโรงเรียนเมื่อวานนี้ )
2. They played volleyball last week. ( เขาทั้งหลายเล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้ว )
2. ประโยค Past Simple Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ทำได้ด้วยการใช้ Verb to do
ช่องที่ 2 คือ did มาช่วย และเติม not ข้างหลัง มีโครงสร้างของประโยคดังนี้
โครงสร้าง : Subject + did + not + Verb 1
( ประธาน + did + not + กริยาช่องที่ 1 )
ตัวอย่าง : 1. He did not ( didn’t ) walk to school yesterday. ( เขาไม่ได้เดินมาโรงเรียนเมื่อวานนี้ )
2. They did not play volleyball last week. ( เขาทั้งหลายไม่ได้เล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้ว )
ข้อสังเกต : เมื่อนำ did มาใช้ในประโยคแล้วต้องเปลี่ยนกริยาช่องที่ 2 ให้เป็นกริยาช่องที่ 1 ด้วย
3. ประโยค Past Simple Tense เชิงคำถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ did มาวางไว้หน้าประโยค
และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้
โครงสร้าง : Did + Subject + Verb 1
( Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 )
ตัวอย่าง : 1. Did he walk to school yesterday ?( เมื่อวานนี้เขาเดินมาโรงเรียนใช่หรือไม่ )
- Yes, he did. ( ใช่ เขาเดินมา )
- No, he didn’t. ( ไม่เขาไม่ได้เดินมา )
2. Did they play volleyball last week ?( เขาทั้งหลายเล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้วใช่หรือไม่ )
- Yes, they did. ( ใช่ เขาทั้งหลายเล่น )
- No, they didn’t . ( ไม่ เขาทั้งหลายไม่ได้เล่น )
4. หลักการใช้ Past Simple Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต ซึ่งมักจะมีคำ กลุ่มคำ หรืออนุประโยคต่อไปนี้อยู่ในประโยค คำ กลุ่มคำ อนุประโยค
ago
last night
when he was young
once
last year
when he was five years old
yesterday
เช่น 1. I lived in Chaing mai 3 years ago. ( ฉันอยู่ที่เชียงใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่แล้ว )
2. His father died during the war. ( พ่อของเขาตายระหว่างสงคราม )
3. He learned English when he was young. ( เขาเรียนภาษาอังกฤษเมื่อเขาเป็นเด็ก )
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาจากการเรียนในชั่วโมงนี้ว่า การใช้ Past Simple Tense คืออะไร มีความหมายอย่างไร และมีหลักการใช้อย่างไร
4. ครูสรุป ความหมาย และหลักการใช้ Past Simple Tense ให้นักเรียนอีกครั้ง
กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 2
กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน
ครูทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงก่อน โดยการสุ่มนักเรียนเป็นตัวแทนเพื่อออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนว่า หลักการใช้ Psat Simple Tense มีอะไรบ้าง
กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. ครูใช้สื่อ CAI ร่วมกับการอภิปรายของครูในการเรื่องหลักการเติม ed ในPast Simple Tense มีกฏดังนี้
1. หลักการเติม ed ที่คำกริยา
1. กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย เช่น
love - loved = รัก
move - move = เคลื่อน
hope - hoped = หวัง
2. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่น
cry - cried = ร้องไห้
try - tried = พยายาม
marry - married = แต่งงาน
ข้อยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ใหเติม ed ได้เลย เช่น
play - played = เล่น
stay - stayed = พัก , อาศัย
enjoy - enjoyed = สนุก
obey - obeyed = เชื่อฟัง
3. กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น
plan - planned = วางแผน
stop - stopped = หยุด
beg - begged = ขอร้อง
4. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้น มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น
concur - concurred = ตกลง, เห็นด้วย
occur - occurred = เกิดขึ้น
refer - referred = อ้างถึง
permit - permitted = อนุญาต
ข้อยกเว้น ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา เช่น
cover - covered = ปกคลุม
open - opened = เปิด
5. นอกจากกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการให้เป็นช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น
walk - walked = เดิน
start - started = เริ่ม
worked - worked = ทำงาน
กิจกรรมรวบยอด
ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Past Simpke Tense จากใบงานที่ครูแจกให้ จากนั้น ให้นักเรียนนำเสนอหน้าชั้นเรียน ครูคอยให้คำปรึกษา และแสดงความคิดเห็น
สื่อและแหล่งเรียนรู้
1. หนังสือเรียน Aha ป.5
2. สื่อ CAI
3. บัตรคำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น